ک†ã₮µ$:: As we grow up, we don't lose friends we just learn who the real ones are..... If you don't stand for something, you'll fall for anything.~ถ้าคุณไม่อดทนต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง คุณก็จะล้มหลวในทุกๆสิ่ง..... Telling the truth and making someone sad is better than telling a lie and making someone happy..... Every time I look at the keyboard, I see that U and I are always together.. I wish there were two of you.....

2.18.2556

:: อย่าใช้เกลือล้างผักและผลไม้นะ ::


อย่าใช้เกลือล้างผักและผลไม้นะ

หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าการใช้น้ำเกลือล้างผักจะช่วยให้ผักสะอาดหมดจดได้ 
ความจริงแล้วเกลือเป็นโซเดียมคลอไรด์ที่มีส่วนทำให้สารตกค้างอย่างยาฆ่าแมลงนั้น
คงทนยิ่งขึ้น ทำให้มันยังตกค้างอยู่ในผักและผลไม้ 
การล้างผักและผลไม้ที่ถูกต้องนั้นควรล้างด้วยน้ำเปล่าก่อนหนึ่งครั้ง 
จากนั้นนำไปแช่โดยใส่แป้งสาลีผสมลงในน้ำด้วยเล็กน้อย
 เพราะมันจะช่วยล้างสารพิษจากยาฆ่าแมลงออกไปได้ หรืออีกวิธี 
ก็คือล้างด้วยน้ำเปล่าซ้ำกันหลายๆ ครั้ง และจะดียิ่งขึ้น
หากปล่อยผักและผลไม้ไว้ที่อุณหภูมิห้องก่อนครึ่งวันแล้วค่อยนำมาล้าง

:: ดูโทรทัศน์มาก อาจทำให้เสียชีวิตได้ง่าย ::



ดูโทรทัศน์มาก อาจทำให้เสียชีวิตได้ง่าย

ผลวิจัยโดย David Dunstan นักวิจัยชาวออสเตรเลีย จากสถาบัน Baker IDIHeart and Diabetes
ในเมลเบิร์น (Melbourne) ที่สำรวจจากชายหญิง ที่มีสุขภาพดีอายุ 25 ปีขึ้นไป
จำนวน 8,800 คน เป็นเวลา 6 ปี พบว่า
80% ของผู้ที่ดูโทรทัศน์มากกว่า 4 ชั่วโมงต่อวัน
 มีแนวโน้มเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือด มากกว่าผู้ที่ดูโทรทัศน์น้อยกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน
 และในการดูโทรทัศน์ที่เพิ่มขึ้นทุก 1 ชั่วโมง จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต 
ด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดถึง 18%

เนื่องจากการทำกิจกรรมที่นั่งเฉยๆ เช่น ดูโทรทัศน์นานๆ ทำให้พวกเราไม่ขยับตัวเป็นเวลานาน
ทำให้กระบวนการเผาผลาญในร่างกายช้าลง และส่งผลให้เกิดการเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ

คำแนะนำสำหรับกรณีนี้ คือ หลีกเลี่ยงการการนั่งเป็นเวลานาน
เปลี่ยนอิริยาบทขยับร่างกายในส่วนที่ไม่ค่อยได้ขยับบ้าง
หรือในขณะชมโทรทัศน์ควรทำกิจกรรมอื่นที่ได้ขยับตัวบ้าง เช่น พับเสื้อผ้าที่ซักแล้ว
หรือเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ด้วยการลุกเดินไปกดเองแทนการใช้รีโมท

:: เคล็ดลับคั้นน้ำมะนาวให้ได้น้ำมาก ::



เคล็ดลับคั้นมะนาวให้ได้น้ำมาก

 ขจัดรสขมดื่มอร่อยสดชื่นเต็มน้ำเต็มเนื้อ เริ่มง่ายๆ จากเทคนิคคัดเลือก “ลูกมะนาวคุณภาพ”

เริ่มจากการคัดเลือกมะนาว หากเป็นมะนาวแก่ คือ มีผิวใส เรียบ สีเขียว ไม่มีจุดด่างดำ
 จับบีบแล้วนิ่มเด้ง ๆ จะมีน้ำเยอะ ให้รสชาติ และกลิ่นที่ดี สามารถเลือกมาคั้นได้เลย
 หากบีบแล้วยังตึงแน่น ให้นำไปแช่น้ำอุ่น ประมาณ 1 นาที ก่อนคั้น 
จะได้น้ำมะนาวที่เยอะขึ้น นอกจากนี้ ความร้อนยังช่วยดึงน้ำมันบนผิว จึงขจัดรสขมได้ด้วย

สำหรับ “น้ำมะนาว” มีวิตามินซีสูง ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน ขับเสมหะ 
ลดอาการเจ็บคอ คลื่นไส้ ขับลมในกระเพาะ ช่วยบรรเทาอาการท้องอืด 
ท้องเฟ้อ และจุกเสียดได้ ทั้งนี้ ควรดื่มให้หมดภายใน 15 นาที หลังจากทำเสร็จ 
ไม่เช่นนั้นวิตามินต่าง ๆ จะเจือจางไปกว่าครึ่ง


:: แอปเปิ้ลแต่ละสีมีประโยชน์ต่างกัน ::



แอปเปิ้ลแต่ละสีมีประโยชน์ต่างกัน

  แอปเปิ้ลผลไม้ยอดนิยม นอกจากรูปร่างจะน่ารับประทานแล้ว ยังมีประโยชน์มากมายอีกด้วย 
แอปเปิ้ลในท้องตลาดมีอยู่หลายสี แต่ละสีก็มีประโยชน์แตกต่างกัน

หลายคนไม่ชอบทานเปลือกแอปเปิ้ล ซึ่งนั่นผิดมหันต์ 
เพราะจะทำให้คุณค่าจากสารอาหารที่จะได้รับจากผลไม้ชนิดนี้ ลดลงไปอย่างมาก 
ประโยชน์ของแอปเปิ้ลที่คุณควรรู้มีดังต่อไปนี้

แอปเปิ้ลที่เห็นตามท้องตลาด มีทั้งเปลือกสีแดง สีชมพู สีเขียว และสีเหลือง 
แตกต่างกันไปตามแต่ละสายพันธุ์ แต่เนื้อข้างในก็เหมือนกันคือ เป็นเนื้อทรายละเอียดสีขาวนวล 
ทราบไหมว่า เมื่อรับประทานแอปเปิ้ลโดยไม่ปอกเปลือก 1 ผล 
จะได้รับพลังงานประมาณ 80 กิโลแคลอรี่ มีวิตามินบี 6 เท่ากับ 0.1 มิลลิกรัม
 และวิตามินซีมากถึง 7.9 มิลลิกรัม

นอกจากนั้นยังมีสารเบต้าแคโรทีน และเส้นใยไฟเบอร์ 
ช่วยในเรื่องของการบำรุงหัวใจ ลดคอเลสเตอรอล ลดความดัน 
ควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ และฆ่าเชื้อไวรัส 
แต่ถ้าปอกเปลือกปริมาณสารอาหารดังกล่าวก็จะลดลงไปด้วย 
มีความเชื่อของฝรั่งกล่าวไว้ว่า การรับประทานแอปเปิ้ลวันละผล ช่วยให้ห่างไกลหมอได้ 
โดยแอปเปิ้ลแต่ละสีก็มีประโยชน์ต่างกันดังนี้

แอปเปิ้ลสีแดง 
ประโยชน์ที่โดดเด่น คือ มีสารแอนตี้ออกซิแดนต์มากที่สุด
 และยังมีอิลาสตินและคอลลาเจนที่ดีต่อสุขภาพผิวอีกด้วย

แอปเปิ้ลสีชมพู 
คุณค่าทางสารอาหารที่สำคัญคือ มีสารฟิโนลิกมากที่สุด 
ซึ่งสารตัวนี้ช่วยยับยั้งการเกิดฝ้าและชะลอความแก่ 
นอกจากนั้นยังมีฟลาโวนอยด์ที่ช่วยเพิ่มการดูดซึมวิตามินซี 
ทำให้ผนังหลอดเลือดฝอยแข็งแรง ลดการอักเสบ ลดไข้ 
รวมทั้งช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย

แอปเปิ้ลสีเขียว
มีรสเปรี้ยวอมหวาน ช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนักได้ดี เพราะมีน้ำตาลน้อย 
และมีสารอิลาสตินและคอลลาเจนเช่นเดียวกัน ช่วยให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่นได้ดี

แอปเปิ้ลสีเหลือง 
มีสารเควอร์ซิติน ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง 
โรคหลอดเลือดหัวใจ และต้อกระจก

1.30.2556

:: เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเค้ก ::


เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเค้ก

Cake มีรากศัพท์มาจากภาษาของชาวไวกิ้ง (Old Norse word) ว่า "kaka"

ประวัติ เริ่มจากปี 1843 คุณอัลเฟรดเบิร์ด (Alfred Bird 1811-1878) 
นักเคมีชาวอังกฤษ ได้ค้นพบ "ผงฟู" หรือ "baking powder" 
ทำให้เขาสามารถทำขนมปังชนิดที่ไม่มียีสต์ให้กับภรรยาของเขาคือ อลิซาเบธ (Elizabeth)
 ได้เป็นครั้งแรก เนื่องจากภรรยาของเขานั้น เป็นโรคภูมิแพ้เกี่ยวกับ ไข่ และ ยีสต์

เค้ก ทำมาจากแป้งสาลี น้ำตาล ไข่ นม เนย ผงฟู และน้ำ 
สมัยหนึ่งมีประเทศที่ผลิตข้าวสาลีเป็นอาหารหลัก เกิดภาวะ "ข้าวสาลี" ล้นตลาด 
ต้องการจะระบายข้าวสาลี จึงให้ทุนกับประเทศต่างๆ ให้ส่งคนไปเรียนวิธีการทำเค้ก
 (วัตถุดิบหลักคือแป้งสาลี) โดยออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด

ผลที่ตามมาก็คือ พวกที่ไปเรียนเมื่อกลับมาประเทศของตัว 
ก็เป็นลูกค้าสั่งตู้อบเค้ก กับสั่งแป้งสาลีเข้ามาเพื่อทำเค้กและประเทศที่ว่านี้ 
ต่อมาก็ไม่เคย มีปัญหา ข้าวสาลีล้นตลาดอีกเลย

เค้ก เป็นขนมที่มีกระบวนการทำให้สุกโดยการอบ 
เป็นขนมที่นิยมบริโภคกันทุกกลุ่มชนเค้กมีหลายประเภทและมีคุณสมบัติต่าง ๆ กัน 
ซึ่งขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของส่วนผสมคือแป้งสาลี ผงฟู เกลือ ไขมัน น้ำตาล ไข่ นม และกลิ่นรส
 โดยต้องมีองค์ประกอบเป็นตัวเค้กให้มีความสมดุลย์ต่างกันไป แล้วแต่ชนิดของเค้กที่จะทำ





:: ทำไมต้องวัดน้ำหนักของเพชรเป็น กะรัต ::




ทำไมต้องวัดน้ำหนักของเพชรเป็น กะรัต

 
สาเหตุที่เรียกหน่วยในการวัดระดับ ของน้ำหนักอัญมณี เช่น เพชร พลอย ทับทิม ฯลฯ

ว่า "กะรัต" (Carat) เนื่อง มา จากในสมัยโบราณ
 ยังไม่มีการกำหนดอัตราในการวัดน้ำหนักสิ่งของต่าง ๆ เป็นสากลแบบระบบเมตริกในปัจจุบัน
จึงได้ใช้พืชชนิดหนึ่งเรียกว่า "แคร็อบ" หรือในภาษาอังกฤษ Carob
ซึ่งมีลักษณะคล้ายฝักมะขาม พบในแอฟริกาใต้ มาใช้เป็นสื่อกลางในการวัดน้ำหนักของเพชร
เพราะเจ้าแคร็อบนี้ มีสิ่งที่มหัศจรรย์อยู่อย่างหนึ่งนั่นคือเมล็ดจะมีน้ำหนักเท่ากันทุกเมล็ด
จึงได้มีการตกลงกันให้ใช้เมล็ดเป็นมาตรฐานในการวัด ซึ่ง 1 เมล็ด เท่ากับ 0.2 กรัม

โดยการชั่งก็คือใช้ตราชั่ง แบบ 2 แขน วัดให้ 2 ข้างเท่า กัน ก็จะได้น้ำหนักเพชร
คำว่าแคร็อบจึงเพี้ยนมาเป็น "กะรัต" อย่างทุกวันนี้

:: 7 วิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้คุณเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ ::



7 วิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้คุณเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ
ในเรื่องของหน้าที่การงาน หลายต่อหลายคนคงจะคาดหวังที่จะให้การทำงานนั้น
ประสบความสำเร็จและมีประสิทธิภาพ ดังนั้นคุณในฐานะของหัวหน้างาน 
ก็ควรที่จะมีองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ช่วยทำให้คุณเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ ดังนี้

1. ตั้งเป้าหมาย
         คิดจะทำการใหญ่ต้องมีการตั้งเป้าหมายและวางแผนอย่างรอบคอบ 
เพราะนั่นจะเป็นเหมือนแผนที่ของคุณในการนำทางให้
ประสบความสำเร็จและก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

2. โน้มน้าวผู้อื่น
         ในการทำงาน คุณไม่ได้ทำงานแต่เพียงผู้เดียว เพื่อนร่วมงาน รวมไปถึงเจ้านายของคุณ 
ก็ถือว่าเป็นกำลังสำคัญที่สามารถช่วยให้คุณเจริญก้าวหน้าได้ ดังนั้น การนอบน้อม 
การขอบคุณ การขอโทษ การกระตุ้น รวมไปถึงการยกย่องสรรเสริญ
 เหล่านี้ก็ถือว่าเป็นการซื้อใจกับผู้ร่วมงานที่ดีที่สุด

3. ทำตามแผนที่ได้วางไว้
         หลังจากที่มีการกำหนดเป้าหมายไว้แล้ว ก็ให้ทำตามที่ได้กำหนดไว้ 
โดยขอให้เน้นในเรื่องของความมุ่งมั่น และเน้นการกระทำมากกว่าคำพูด

4. มีแรงบันดาลใจ
         แรงบันดาลใจถือเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้การทำงานในแต่ละวัน
ดำเนินต่อไปอย่างมีจุดหมาย ดังนั้น จึงควรสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองอย่างสม่ำเสมอ

5. มีการดำเนินการที่ดี
         การดำเนินการที่ดีก็เหมือนกับเครื่องจักรสำคัญที่มีประสิทธิภาพสูง 
ซึ่งวิธีการที่จะทำให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยดีนั้น ก็จะต้องมีการกำหนดงานในแต่ละวัน 
กำหนดขั้นตอนการทำ และติดตามผลอยู่อย่างต่อเนื่อง

6. เปลี่ยนแปลงบางอย่างให้ลงตัว
         ในการทำงานใด ๆ ก็แล้วแต่มักจะไม่ราบลื่นอยู่เสมอไป 
ดังนั้นหากงานที่ทำมีการติดขัด ก็ให้ลองเปลี่ยนแปลงบางจุดดู 
เพื่อให้งานสามารถดำเนินต่อไปได้ และให้เกิดความลงตัวมากยิ่งขึ้น

7. คอยอยู่เคียงข้างทีมงานของคุณเสมอ
         ขอให้จำไว้เสมอว่า ถ้าคุณสนันสนุนทีมงานของคุณ พวกเขาก็จะสนันสนุนตัวคุณเช่นกัน 
หากลูกน้องของคุณทำผลงานดี ก็ควรที่จะชื่นชม เพื่อให้เขาได้มีกำลังใจในการทำงานต่อไป

         เหล่านี้ถือเป็นวิธีการง่าย ๆ ที่จะช่วยผลักดันให้คุณเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ 
ซึ่งสามารถช่วยให้งานของคุณมีความก้าวหน้า และประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี

1.24.2556

:: จริงหรือไม่ที่งูกลัวมะนาวและเชือกกล้วย ::


จริงหรือไม่ที่งูกลัวมะนาวและเชือกกล้วย
หลายๆ คนมีความเชื่อว่า งูกลัวมะนาวและเชือกกล้วย
แต่เปล่าเลย ขอบอกก่อนเลยว่าเป็นความเชื่อที่ผิด


จากการสอบถามสัตวแพทย์ด้านงู ได้คำตอบว่า “ไม่จริง” เป็นความเชื่อล้วนๆ
เพราะความจริงแล้ว งูไม่กลัวมะนาวและเชือกกล้วยแต่อย่างใด
แม้แต่ต้นมะนาวก็ยังเคยมีงูขึ้นไปเลื้อยหน้าตาเฉย
สันนิษฐานว่าคนโบราณอาจจะพกมะนาวเอาไว้เป็นกระสุนขว้างปางูมากกว่า
ส่วนเชือกกล้วย ยิ่งเวลาถูกน้ำก็ยิ่งเหนียว
ส่วนเชือกชนิดอื่นจะยิ่งลื่น แต่ไม่เกี่ยวกับงูกลัวเชือกกล้วย

 
เวลาที่ต้องเข้ารกเข้าพงหรือเดินป่า ควรแต่งกายมิดชิด รัดกุม สวมรองเท้าบู๊ต
และหาไม้เคาะพื้นเพื่อทำให้เกิดการสั่นสะเทือน
เมื่องูรับรู้ถึงการสั่นสะเทือนก็จะเลื้อยหนีไปเองหรือปรากฏตัวให้เราเห็น เราก็เลี่ยงทางนั้นไป

 
จงจำไว้ว่า การส่งเสียงดังไล่งูก็ไม่เป็นผลเลยเพราะงูไม่มีหู มันจึงไม่ได้ยินเสียง!
การแสดงของแขกที่เป่าขลุ่ยหรือปี่เรียกงูให้ขึ้นมาจากตะกร้านั้น
ความจริงแล้ว งูมันจ้องดูขลุ่ยหรือเข่าของนักเป่าปี่ที่เคลื่อนไหวส่ายไปมานั่นเอง

 




12.24.2555

:: การประดิษฐ์บาร์โค้ด ::


บาร์โค้ด คืออะไร
บาร์โค้ด (barcode) หรือในภาษาไทยเรียกว่า "รหัสแท่ง" คือ
การแทนข้อมูลที่เป็นรหัสเลขฐานสอง (Binary codes) ในรูปแบบของแถบสีดำและขา
วที่มีความกว้างของแถบที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับตัวเลขที่กำกับอยู่ข้างล่าง
การอ่านข้อมูลจะอาศัยหลักการสะท้อนแสง
 เพื่ออ่านข้อมูลเข้าเก็บในคอมพิวเตอร์โดยตรงไม่ต้องผ่านการกดปุ่มที่แป้นพิมพ์
ระบบนี้เป็นมาตรฐานสากลที่นิยมใช้กันทั่วโลก
การนำเข้าข้อมูลจากรหัสแถบของสินค้าเป็นวิธีที่รวดเร็วและความน่าเชื่อถือ
ได้สูงและให้ความสะดวกแก่ผู้ใช้งานได้ดี

ทั้งนี้ เทคโนโลยีบาร์โค้ด ถูกนำมาใช้ทดแทนในส่วนการบันทึกข้อมูล (Data Entry)
 ด้วยคีย์บอร์ด ซึ่งมีอัตราความผิดพลาดอยู่ประมาณ 1 ใน 100
 หรือบันทึกข้อมูลผิดพลาดได้ 1 ตัวอักษร ในทุกๆ 100 ตัวอักษร
 แต่สำหรับระบบบาร์โค้ด อัตราการเกิดความผิดพลาดจะลดลง
เหลือเพียง 1 ใน 10,000,000 ตัวอักษรเลยทีเดียว
นี่จึงเป็นเหตุผลที่นิยมนำมาใช้กันแพร่หลายทั่วโลก

สำหรับระบบบาร์โค้ดจะใช้ควบคู่กับเครื่องอ่าน ที่เรียกว่า เครื่องยิงบาร์โค้ด (Scanner)
 ซึ่งเป็นเป็นตัวอ่านข้อมูล ที่อยู่ในรูปรหัสแท่ง เป็นข้อมูลตัวเลขหรือตัวอักษร
 ทำให้มนุษย์สามารถเข้าใจ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้งาน

สำหรับบาร์โค้ดในประเทศไทยเริ่มนำมาใช้อย่างจริงจัง
โดยมีสถาบันสัญลักษณ์รหัสแท่งไทย (Thai Article Numbering Council) หรือ TANC
 เป็นองค์กรตัวแทน EAN ภายใต้การดูแลของสภาอุตสาหกรรมกรรมแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ ระบบ EAN ที่ประเทศไทยใช้นั้นจะมีลักษณะเป็นเลขชุด 13 หลัก ซึ่งมีความหมายดังนี้

             885 : ตัวเลข 3 หลักแรก คือรหัสของประเทศไทย
             xxxx : ตัวเลข 4 ตัวถัดมา เป็นรหัสโรงงานที่ผลิต หรือรหัสสมาชิก
             xxxxx : 5 ตัวถัดมา เป็นรหัสสินค้า
             x : ตัวเลขหลักสุดท้ายเป็นตัวเลขตรวจสอบเลข 12 ข้างหน้าว่ากำหนดถูกต้องหรือไม่ ถ้าตัวสุดท้ายผิด บาร์โค้ดตัวนั้นจะอ่านไม่ออกสื่อความหมายไม่ได้

:: พายุสุริยะ ::


ปรากฏการณ์ "พายุสุริยะ" คือปรากฎการณ์ที่ทำให้ดวงอาทิตย์ส่งพลังงานประจุไฟฟ้า
ออกมายังโลกและดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ซึ่งประจุไฟฟ้าที่
ส่งออกมาคือสิ่งที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงของ "ภูมิอากาศ" และ "ระบบธรณีวิทยา" บนโลก

แล้วปรากฏการณ์พายุสุริยะเกิดขึ้นได้อย่างไร !
การจะเกิดพายุสุริยะได้ต้องมี 3 องค์ประกอบ คือ
1) ดวงอาทิตย์เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว
2) เกิดปรากฏการณ์เรียงตัวกันเป็นระนาบในทางช้างเผือก และ
3) มีรังสีคอสมิก

จากข้อมูลขององค์การนาซ่าแห่งสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นเจ้าพ่อใหญ่แห่งวงการอวกาศโลก
ชี้แจงว่าทุกๆ 11 ปี ขั้วแม่เหล็กของดวงอาทิตย์จะกลับหัวกลับหางจากเหนือเป็นใต้
 เป็นเหตุให้ "จุดดับ" บนผิวดวงอาทิตย์ออกฤทธิ์เปล่งพลังงานมหาศาลออกมาในอวกาศ
ในลักษณะคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าก่อให้เกิดรังสีต่างๆได้แก่ รังสีแกมม่า และรังสีเอ็กเรย์
ซึ่งมีผลต่อโลกในสามระดับ กล่าวคือ

1.ระดับรุนแรงที่สุด (X-Class) ทำให้คลื่นวิทยุสื่อสารล้มเหลวทั้งโลกเป็นเวลานาน
อุปกรณ์ต่างๆที่ต้องใช้การติดต่อผ่านดาวเทียมและระบบคอมพิวเตอร์จะเข้าสู่ภาวะ Blackout
 เรียกง่ายๆว่าระบบอิเล็กโทรนิคทั้งหลายเป็นใบ้สิ้นเชิง
 เราๆท่านๆที่ฝากวิถีชีวิตไว้กับโลก "ออนไลน์"
คงต้องทำใจกลับไปสู่ยุคไปรษณีย์จดหมายธรรมดา
นักบินมือหนึ่งที่เคยชินกับการนำร่องโดยระบบคอมพิวเตอร์และจีพีเอส
 ก็คงต้องหันกลับมาบังคับเครื่องแบบ "ตาดู หูฟัง"
ท่านที่นิยมทำธุรกรรมออนไลน์คงต้องกลับมาสู่ระบบส่งดร๊าฟทางไปรษณีย์
 และที่แน่ๆการประมูลโครงก่อสร้างระดับบิ๊กๆมหาโปรเจคหมื่นล้านที่กระทรวงการคลังคุยนักคุยหนา
ว่า "อี อ๊อกชั่น" คงต้องกลับมาใช้วิธียื่นซองเหมือนเดิม
ส่วนบรรดาผู้มีรสนิยมไฮโซชอบเล่น 3G 4G และ Facebook คงต้องระงับความอยากไว้ชั่วคราว

2.ระดับปานกลาง (m-class) เป็นอาการเดียวกับข้อแรกแต่เกิดแบบชั่วคราว เราๆท่านๆที่เป็นนักออนไลน์ และฝากชีวิตไว้กับสื่ออิเลคโทรนิค ต้องยุติความทันสมัยชั่วคราวคงไม่ถึงกับลงแดง

3. ระดับอ่อน (c-class) ไม่มีผลอะไรเลย แบบที่วัยรุ่นเรียกว่า "ชิว ชิว"


ขณะเดียวกัน เมื่อปี 2551 องค์การนาซาได้ตรวจพบ "รูรั่ว" ในสนามแม่เหล็กโลก
ที่มีขนาดใหญ่กว่าที่เคยคาดไว้ และยังพบชั้นบรรยากาศของโลกที่หดตัวลงมากเป็นประวัติการณ์
 ซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้เปรียบเสมือนสิ่งที่เป็นเกราะป้องกันรังสีจากนอกโลกไว้
ประเด็นคือยิ่งปริมาณ "รังสีคอสมิก" เข้ามามากเท่าไหร่
จะเกิดความแปรปรวนของภูมิอากาศในโลก จะมีน้ำก่อตัวมากขึ้น
 ที่น่าเป็นห่วงคือเมื่อปี 1978 มีนักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสท่านหนึ่งเคยคาดการณ์ล่วงหน้าว่า
ในช่วงเร็ว ๆ นี้ระบบสุริยะที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง
กำลังจะเคลื่อนตัวเข้าสู่กลุ่มก๊าซขนาดใหญ่ในอวกาศ ทำให้มี "รังสีคอสมิก"
เข้ามาในระบบสุริยะมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศบนดาวเคราะห์ทุกดวงในระบบสุริยะ