“คำว่าผีเสื้อจะไปอย่างไรมาอย่างไรในภาษาไทยไม่รู้ความหมายมัน
ถึงได้มาเป็นสัตว์แมลงอย่างหนึ่งกับยักษ์อีกอย่างหนึ่ง
นานมาแล้วผู้เขียนเคยสันนิษฐานคำว่าพระเสื้อเมืองทรงเมืองว่า 'เสื้อ'
คำนี้คงจะเป็น 'เชื้อ' คือเชื้อสาย พระเสื้อเมืองก็คือพระเชื้อเมือง
โดยหมายถึงว่าเป็นผีเชื้อสาย หรือเทวดาที่คุ้มครองรักษาเมือง
ตามลัทธิของไทยโบราณที่นับถือผีบรรพบุรุษปู่ย่าตายาย
สำเนียงไทยทางเหนือบางเหล่าพูดเพี้ยนแปร่ง
ออกเสียงเชื้อเป็นเชื่อหรือเสื้อ พระเชื้อเมืองจึงกลายเป็นพระเสื้อเมือง
เมื่อเขียนแล้วผู้เขียนได้พบท่านเจ้าคุณอนุมานราชธนท่านบอกว่าชอบกล
ทำให้ท่านนึกถึงแมลงผีเสื้ออีกอย่างหนึ่งไทยทางเหนือเขาก็ถือกันว่าเป็นผี
เพราะถ้าบินมามาก ๆ แล้วทำให้เกิดความเจ็บไข้ตายกันได้
จากปากคำของท่านเสฐียรโกเศศอันเป็นที่เคารพนับถือของผู้เขียนคนหนึ่งนี้
ประกอบกับที่ผู้เขียนได้อ่านพบอะไรมาบางอย่าง
จึงทำให้สันนิษฐานว่าผีเสื้อนี้คงจะเป็นผีเชื้ออีกเหมือนกัน
ที่ผู้เขียนได้อ่านพบก็คือในพวกพม่าไทยใหญ่เขาถือกันว่า
วิญญาณของคนเหมือนผีเสื้อโบยบินท่องเที่ยวไป
ผีเสื้อจึงน่าจะตรงกับผีเชื้อ คือผีเชื้อสายปู่ย่าตายาย
ตามที่กล่าวมานี้ จึงสันนิษฐานว่าตัวแมลงที่เราเรียกกันว่าผีเสื้อนี้
คงจะมีมูลมาจากไทยเดิมถือกันว่า เป็นวิญญาณของผีเชื้อสาย
จึงได้เรียกกันว่าผีเชื้อ แต่หากสำเนียงต่างกัน ผีเชื้อจึงกลายเป็นผีเซื่อ
(ถ้าให้ไทยทางเหนือและอีสานเรียกผีเสื้อเราจะฟังออกเสียงเป็นเซื่อชัด ๆ)
ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นผีเสื้อทำนองเดียวกับพระเชื้อเมืองเป็นพระเสื้อเมืองนั่นเอง”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น