โดยเทคโนโลยีนี้จะทำให้ผู้บริโภคสามารถเก็บข้อมูลไว้ได้หลายร้อยล้านปี
ซึ่งเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้ประกอบด้วย"เลเซอร์"
ที่ใช้ในการเข้ารหัสข้อมูลที่ยิงเข้าไปในชิ้นแก้วควอทซ์ด้วยจุดที่เรียงตามรหัสเลขฐานสอง
โดยสามารถอ่านข้อมูลกลับขึ้นมาด้วยกล้องจุลทรรศน์
ฮิตาชิประกาศเทคโนโลยีสตอเรจใหม่ทีใช้แก้วควอทซ์ (quartz glass)
กับเลเซอร์ (Laser) ที่กรุงโตเกียวเมื่อวานนี้ โดยนักวิจัยของทางบริษัทกล่าวว่า
พวกเขาได้ทดสอบความทนทานในการเก็บข้อมูลด้วยการให้ความร้อนกับแก้วควอทซ์
ที่เข้ารหัสข้อมูลไว้ภายในที่ระดับ 1,800 องศาฟาเรนไฮต์ (ประมาณ 982 องศาเซลเซียส)
เป็นเวลาสองชั่วโมง ปรากฎว่า ข้อมูลทั้งหมดที่บันทึกอยู่ในแก้วควอทซ์ยังคงอยู่
และสามารถอ่านกลับมาได้อย่างสมบูรณ์
นับเป็นความสำเร็จที่งดงามที่ได้จากการทดสอบตัวอย่างสตอเรจที่พัฒนาขึน
แม้จะมีข้อดีในเรื่องของการเก็บรักษาข้อมูลได้ยาวนาน
แต่ข้อเสียประการหนึ่งก็คือ เทคโนโลยีนี้จะไม่สามารถจัดเก็บข้อมูลได้มากนัก
ในการทดสอบพบว่า แก้วควอทซ์ จะสามารถบันทึกขัอมูลได้ 40MB ต่อตารางนิ้ว
ซึ่งหากเทียบกับฮาร์ดดิสก์ในปัจจุบันสามารถจัดเก็บข้อมูลได้สูงสุดถึง 1TB ต่อตารางนิ้ว
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจุดแข็งในการเก็บรักษาข้อมูลได้ยาวนานหลายร้อยปีของเทคโนโลยีนี้
ฮิตาชิกล่าวว่า มันจะเป็นประโยชน์มากในการบันทึกข้อมูลประวัติศาสตร์
วัฒนธรรมของมวลมนุษยชาติบนโลกนี้ไว้ให้นานที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น