ک†ã₮µ$:: As we grow up, we don't lose friends we just learn who the real ones are..... If you don't stand for something, you'll fall for anything.~ถ้าคุณไม่อดทนต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง คุณก็จะล้มหลวในทุกๆสิ่ง..... Telling the truth and making someone sad is better than telling a lie and making someone happy..... Every time I look at the keyboard, I see that U and I are always together.. I wish there were two of you.....

12.31.2554

:: อาการหูหนวกส่งผลต่อเพลงเบโธเฟน ::


นักวิทยาศาสตร์พบว่าอาการหูหนวกของเบโธเฟน
ส่งผลให้เขาเลือกใช้โน้ตเพลงที่มีความถี่ต่ำในการแต่งเพลง

ในปี 1801 เมื่อเบโธเฟนอายุ 30 ปี เขาเริ่มสูญเสียความสามารถทางการได้ยิน
โดยมีปัญหาในการฟังเสียงเครื่องดนตรีที่เล่นตัวโน้ตเสียงสูง
หลังจากนั้นอาการของเขาก็แย่ลงเรื่อยๆ จนกระทั่งในปี 1827 เบโธเฟนก็สูญเสียการได้ยินอย่างสิ้นเชิง

นักวิทยาศาสตร์ชาวดัตช์ 3 คน ทำการศึกษางานเพลงของเบโธเฟน
โดยแบ่งเพลงออกเป็น 4 ยุค เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1798 จนถึง 1826 และพบว่าในยุคเริ่มต้น
เบโธเฟนยังเลือกใช้ตัวโน้ตสำหรับไวโอลินที่สูงกว่าคอร์ด G6 ซึ่งค่าความถี่อยู่ที่ประมาณ 1,568 เฮิร์ตซ์
แต่เมื่ออาการหูหนวกเริ่มแย่ลง เบโธเฟนก็หันมาเลือกใช้โน้ตเพลงที่มีความถี่อยู่ในระดับกลางและต่ำแทน
เพื่อให้ตัวเขาเองได้ยินเสียงเครื่องดนตรีเล่นโน้ตเหล่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังเมื่อเขาสูญเสียการได้ยินโดยสิ้นเชิงแล้ว
เบโธเฟนก็กลับมาเลือกใช้โน้ตที่มีเสียงสูงขึ้นอีกครั้ง โดยนักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า
สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะเขาเลิกแต่งเพลงที่เขาสามารถได้ยินทางหู
แต่หันไปแต่งเพลงโดยใช้ใจและประสบการณ์การแต่งเพลงในยุคเริ่มต้นแทน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น