อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein) นักวิทยาศาสตร์เอกของโลก
เผยแพร่บทความเรื่อง "Does the Inertia of a Body Depend Upon Its Energy Content ?”
("จริงหรือไม่ที่ความเฉื่อยขึ้นอยู่กับพลังงานภายในของวัตถุ”)
ซึ่งได้นำเสนอสมการก้องโลก E=mc2
สมการนี้แสดงความสัมพัทธ์ระหว่างมวลและพลังงาน
อธิบายได้ว่า เมื่อให้พลังงานกับมวลเพื่อให้มีความเร็วเพิ่มขึ้น มวลนั้นก็จะมีค่าเพิ่มขึ้นด้วย
จากทฤษฎีนี้ทำให้นำสู่ผลที่ว่าไม่มีอะไรเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าแสง
หลักการนี้จึงเป็นหลักการเบื้องต้นของ "ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป" (theory of relativity)
แม้ว่าไอน์สไตน์จะใช้เวลาเพียงแค่ 4 เดือน ในการสร้างผลงานปฏิวัติโลกด้วยผลงานเด่น ๆ
3 ผลงานในปีนี้ คือ “ปรากฏการณ์โฟโตอิเลกตริก” (Photoelectric Effect)
“การเคลื่อนที่แบบบราวเนียน” (Brownian Motion)
และ “ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ” (special relativity)
แต่โลกต้องใช้เวลาอีกหลายทศวรรษเพื่อทำความเข้าใจและเห็นคุณค่าในผลงานเหล่านี้
ต่อมาได้มีการประกาศให้ปี 2448 เป็นปีมหัศจรรย์ของไอน์สไตน์และในปี 2548
วงการวิทยาศาสตร์โลกได้ประกาศให้เป็น "ปีฟิสิกส์โลก” (World Year of Physics 2005)
และมีการจัดงานฉลองครบรอบ 1 ศตวรรษปีมหัศจรรย์ไอน์สไตน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น